Blog

  • GMMTV 2026 ประกาศซีรีส์ GL 8 เรื่อง | รายละเอียดคู่จิ้น

    เพื่อนๆ ชาวซีรีส์ไทยเตรียมตัวดีรึยัง? เพราะปี 2026 นี้ GMMTV เขาทำงานใหญ่มาก! งาน GMMTV 2026: MAGIC VIBES MAXIMIZED ที่จัดไปเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ไม่ใช่เล่นๆ แฮชแท็ก #GMMTV2026 ติดเทรนด์อันดับ 1 ของโลกและประเทศไทยเลยนะ แถมยังมีคนโพสต์ถึง 20-38 ล้านครั้งทั่วโลก!

    ผมไปเช็คข้อมูลมาแล้วต้องบอกว่า ปีนี้เขาเปิดตัวซีรีส์ใหม่ทั้งหมด 36-38 โปรเจกต์ มีนักแสดงมากมาย แต่ที่ทำให้ผมตื่นเต้นสุดๆ คือการที่เขาเปิดตัวซีรีส์ GL (Girls’ Love) ถึง 8 เรื่อง! จากเดิมที่มีแค่ 2 เรื่องในปี 2025 นี่คือสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์ของ GMMTV เลย

    บรรยากาศงานประกาศซีรีส์ GMMTV 2026 ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

    ทำไม GL ปี 2026 ถึงน่าติดตาม?

    เพื่อนๆ รู้มั้ยว่า GL ในบ้านเรากำลังมาแรงมาก การประกาศซีรีส์ GL 8 เรื่องในครั้งเดียว นี่คือสัญญาณที่ดีมากๆ สำหรับความหลากหลายในวงการซีรีส์ไทยเลย และนี่คือรายละเอียดซีรีส์ GL ทั้ง 8 เรื่องที่เราต้องจับตาดูกัน:

    1. Ditto (ระฟ้าหล่นสวรรค์)

    คู่จิ้น: Milk Pansa x Love Pattranite
    นักแสดงร่วม: Ciize Rutricha, Earn Preeyaphat, Piploy Kanyarat
    เรื่องราว: ซีรีส์โรแมนติกดราม่าดัดแปลงจากนิยายโดย Zezeho เกี่ยวกับแอร์โฮสเตสสาวที่มีฝาแฝด พบกับนักบัลเล่ต์ที่บาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ นี่เป็นโปรเจกต์ที่ 4 ของคู่ MilkLove แล้วนะ

    2. Bake Love Feeling (ขนมปังชีสเนย)

    คู่จิ้น: View Benyapa x Mim Rattanawadee
    นักแสดงร่วม: Jan Ployshompoo, Jingjing Yu, Ford Aran, Pahn Natcha

    3. Wish Upon A Star

    คู่จิ้น: Pahn x Fond

    4. Moon Shadow

    คู่จิ้น: Emi Thasorn x Bonnie

    5. Enemies with Benefits (ลัลล์ไม่ชอบไวน์)

    คู่จิ้น: Jan Ployshompoo x Jingjing Yu
    นักแสดงสนับสนุน: Krapook Ploynira x Ciize Rutricha

    6. Love’s Echoes

    คู่จิ้น: June x Mewnich

    7. Oxytoxin

    คู่จิ้น: Waifa x Tonkhaw

    8. Her (รักของเธอ)

    คู่จิ้น: Namtan Tipnaree x Film Rachanun
    นักแสดงร่วม: Junior Panachai
    เรื่องราว: ดราม่าสุดเข้มข้นของการล้างแค้นในความสัมพันธ์ที่มีโครงเรื่องเกี่ยวกับ gender-switch

    คู่จิ้น GL จากซีรีส์ใหม่ GMMTV 2026

    แล้วซีรีส์ BL ล่ะ มีอะไรบ้าง?

    แม้ปีนี้จะเน้น GL แต่ซีรีส์ BL ก็ยังมาแรงไม่แพ้กัน! มีหลายเรื่องที่เพื่อนๆ รอคอย:

    • โปรดอยู่ในความคุ้มครองของป้องปืน – Jimmy Jitrapol x Sea Tawinan
    • เคียงมังกร The Invisible Dragon – First Kanaphan, Khaotung Thanawat, Namtan Tipnaree, Bright Rapheephong
    • ผีผลักให้รักคุณ (Cupid’s Ghost) – Earth Pirapat x Mix Sahaphap

    โปรเจกต์พิเศษที่ต้องจับตา

    Scarlet Heart Thailand

    รีเมคจากนิยายจีนชื่อดังโดย Tong Hua กับทีมนักแสดงสุดอลังการ มี Win Metawin, Tay Tawan, Fourth Nattawat, Nanon Korapat, Phuwin Tangsakyuen และอีกหลายคน

    HIGH & LOW BORN TO be HIGH

    โปรเจกต์ยักษ์ความร่วมมือระหว่าง HI-AX, GMMTV และภาพยนตร์ดีทวีสุข ดัดแปลงซีรีส์แอกชันสุดฮิตจากญี่ปุ่น

    รักแห่งสยาม The Musical

    รีเมคจากภาพยนตร์ BL ชื่อดังในปี 2007 โดยมี Gemini Norawit และ Fourth Nattawat เป็นนักแสดงนำ

    ทีมนักแสดงจากโปรเจกต์พิเศษ GMMTV 2026

    คู่จิ้นดังที่กลับมาในปี 2026

    สำหรับคู่จิ้นสุดฮิตที่เราคุ้นเคย ก็จะกลับมาให้เราติดตามกันอีกด้วย อย่าง GeminiFourth, JoongDunk, PondPhuwin, FirstKhaotung และ ForceBook

    FAQ: คำถามที่เพื่อนๆ อาจสงสัย

    Q: ซีรีส์เหล่านี้จะออกอากาศเมื่อไหร่?

    A: ตอนนี้วันออกอากาศที่แน่นอนยังไม่ประกาศ แต่คาดว่าจะเริ่มออกอากาศตลอดปี 2026 เป็นต้นไป GMMTV จะประกาศตารางออกอากาศที่แน่ชัดในภายหลัง

    Q: ดูซีรีส์ GMMTV ได้ที่ไหนบ้าง?

    A: ดูได้ที่ช่อง GMM25 เวลา 20:30-21:30 น. หรือผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเช่น AIS Play, Viu, WeTV, Disney+ Hotstar, oneD และ YouTube ช่องทางการของ GMMTV

    Q: ทำไมปีนี้ GMMTV ถึงเน้นซีรีส์ GL มากขึ้น?

    A: จากสถิติ การประกาศซีรีส์ GL 8 เรื่อง ในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าทางค่ายเห็นความสำคัญและตอบสนองความต้องการของแฟนๆ ที่มีต่อซีรีส์ GL ที่เพิ่มมากขึ้น

    Q: มีซีรีส์แนวอื่นนอกจาก GL และ BL ไหม?

    A: มีแน่นอน! ในโปรเจกต์ที่ประกาศ มีทั้งโรแมนติก, ดราม่า, แอกชัน, และแนวอื่นๆ รวมถึงโปรเจกต์พิเศษอย่าง Scarlet Heart Thailand และ HIGH & LOW

    สรุปแล้วปี 2026 จะเป็นปีแห่ง Girls’ Love!

    เพื่อนๆ เห็นมั้ยครับว่า GMMTV 2026 นี้เขาจัดเต็มจริงๆ โดยเฉพาะกับซีรีส์ GL ที่เพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจากปีก่อนๆ นี่เป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับความหลากหลายในวงการซีรีส์ไทย

    ปีหน้าน่าตื่นเต้นมากเลยนะครับ เพื่อนๆ เตรียมตัวลุ้นรอซีรีส์เรื่องไหนเป็นพิเศษบ้าง? มาแชร์กันได้เลยครับ!

    ส่วนตัวผมเองตื่นเต้นกับ Ditto ของ MilkLove และ Her ของ NamtanFilm มากๆ เพราะทั้งคู่มีทีเซอร์ที่น่าสนใจและเรื่องราวที่ดูเข้มข้นน่าติดตาม

    รอติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับตารางออกอากาศได้ที่ช่องทางต่างๆ ของ GMMTV นะครับ เพื่อนๆ คนไหนมีซีรีส์ที่รอคอยเป็นพิเศษก็คอมเมนต์มาแบ่งปันกันได้เลย!

  • Thanksgiving 2024 กรุงเทพฯ: 12 ร้านอาหารโปรโมชั่น

    เพื่อนๆ เคยรู้สึกไหมว่าช่วงปลายปีทีไร อยากหาโอกาสดีๆ ไปทานอาหารสุดพิเศษกับเพื่อนหรือครอบครัว? 🤔 มาถึงเทศกาล Thanksgiving ปี 2024 นี้ ผมเลยรวบรวมร้านอาหารและโปรโมชั่นเด็ดๆ ในกรุงเทพฯ มาให้เลือกกัน!

    Thanksgiving 2024 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน เป็นโอกาสทองสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากมีประสบการณ์ดินเนอร์ระดับพรีเมียมในราคาที่คุ้มค่า เพราะโรงแรมและร้านอาหารดังๆ ในกรุงเทพฯ เขาจัดโปรโมชั่นพิเศษกันเต็มที่!

    ครอบครัวและเพื่อนๆ นั่งทานอาหาร Thanksgiving ด้วยกันอย่างอบอุ่น

    เมนูฮิตในเทศกาล Thanksgiving ที่ต้องลอง

    ก่อนไปดูร้านไหนน่าไป ลองมาดูเมนูเด็ดๆ ที่ห้ามพลาดในช่วงเทศกาลนี้กันก่อน:

    • ไก่งวงอบ (Roasted Turkey) คู่กับซอสแครนเบอร์รี่
    • แฮมอบน้ำผึ้ง (Honey Mustard Baked Ham)
    • เป็ดอบยัดไส้
    • ซุปฟักทองและซุปเกาลัดมันฝรั่ง
    • พายต่างๆ ทั้งพายฟักทอง พายถั่วพีแคน และพายแอปเปิ้ล

    พอรู้จักเมนูกันแล้ว ไปดูร้านแนะนำกันเลย!

    12 ร้านอาหารน่าไปฉลอง Thanksgiving 2024

    1. Flourish – Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok

    ตัวเลือกพรีเมียมที่คุ้มค่ามาก! ด้วยราคา 3,600 บาทสุทธิต่อคน รวมเครื่องดื่มแล้ว เปิดบริการเวลา 18:00-22:00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน บุฟเฟต์แบบนี้เหมาะมากสำหรับกลุ่มเพื่อนที่อยากฉลองแบบเต็มอิ่ม

    2. Red Oven – SO/ Bangkok

    สำหรับคนที่อยากลิ้มลองไก่งวงอบยัดไส้แอปเปิ้ลและเครื่องเทศแบบต้นตำรับ ที่นี่เขาจัดเต็ม! นอกจากเมนู Thanksgiving แล้ว ยังมีซี่โครงย่าง ซุปมันฝรั่งและครีมขิง รวมถึงไลน์อาหารบุฟเฟต์ครบครันทั้งสลัดบาร์สดใหม่ ซาชิมิ อาหารไทย และซีฟู้ด

    3. Kimpton Maa-Lai Bangkok (Stock.Room restaurant)

    โปรโมชั่นนี้เด็ดมากสำหรับคนรุ่นใหม่! จากราคาปกติ 1,999 บาทสุทธิ ลดเหลือแค่ 1,699 บาทสุทธิต่อท่าน รวมซอฟท์ดริ้งก์แล้ว ที่สำคัญคือเมนู Slow-roasted turkey with classic trimmings อร่อยมาก และยังมี Sea+Land surf and turf add-ons ให้เลือกเพิ่มด้วย เปิดบริการตั้งแต่ 17:30 น. เป็นต้นไป

    บุฟเฟต์อาหาร Thanksgiving ในร้านอาหารสไตล์โมเดิร์น

    4. Latest Recipe – Le Meridien Bangkok

    ที่ Latest Recipe ใน Le Meridien เขาก็จัดบุฟเฟต์ Thanksgiving Dinner พิเศษเช่นกัน ด้วยราคา 950 บาทสุทธิต่อคน เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและประหยัดที่สุดในรายการนี้เลย

    5. โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ

    อยากฉลองแบบโรแมนติกกว่าใคร? ล่องเรือแชงกรี-ลา ฮอไรซัน พร้อมอาหารประจำเทศกาลสิ! ราคาผู้ใหญ่ 2,900 บาท เด็กอายุ 6-12 ปี 1,450 บาท เหมาะสำหรับคู่รักหรือครอบครัวที่อยากประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

    6. The Okura Prestige Bangkok

    ที่ Up & Above Restaurant & Bar มีบุฟเฟต์ Thanksgiving สุดพิเศษ ราคา 2,200 บาทสุทธิต่อท่าน รวมเมนูไก่งวงอบสูตรพิเศษและอาหารนานาชาติครบครัน

    7. Anantara Siam Bangkok

    ที่ Madison Restaurant จัดบุฟเฟต์ Thanksgiving ราคา 1,800 บาทสุทธิ เน้นอาหารอเมริกันสไตล์ดั้งเดิมพร้อมเมนูพิเศษมากมาย

    8. Waldorf Astoria Bangkok

    ที่ The Brasserie มีบุฟเฟต์ Thanksgiving ราคา 2,500 บาทสุทธิ พร้อมบรรยากาศหรูและบริการระดับพรีเมียม

    9. Hyatt Regency Bangkok

    ที่ Spectrum Lounge & Bar จัดบุฟเฟต์ Thanksgiving ราคา 1,900 บาทสุทธิ วิวเมืองกรุงเทพฯ สวยงามเหมาะสำหรับถ่ายรูป

    10. Four Seasons Hotel Bangkok

    ที่ Aqua Bar & Lounge มีบุฟเฟต์ Thanksgiving ราคา 2,800 บาทสุทธิ พร้อมไลฟ์มิวสิกและบรรยากาศโรแมนติก

    11. The Peninsula Bangkok

    ที่ Mei Jiang ร้านอาหารจีนระดับมิชลินจัดเมนู Thanksgiving พิเศษ ราคา 3,200 บาทสุทธิต่อท่าน

    12. Banyan Tree Bangkok

    ที่ Vertigo TOO มีบุฟเฟต์ Thanksgiving ราคา 2,700 บาทสุทธิ พร้อมวิวเมือง 360 องศาที่สวยงาม

    จองยังไงให้ได้ที่นั่งดีๆ

    จากประสบการณ์ตรงของผม การจองล่วงหน้าสำคัญมาก! เพราะเทศกาลแบบนี้คนจองเต็มเร็ว โดยเฉพาะร้านฮิตๆ ผมแนะนำให้:

    • จองโต๊ะล่วงหน้า 1-2 สัปดาห์
    • ติดต่อโรงแรมหรือร้านอาหารโดยตรงผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ หรือโทรศัพท์
    • บางร้านมีบริการจองผ่าน Megatix.in.th ซึ่งสะดวกดี
    • ถ้าไปเป็นกลุ่มใหญ่ ควรแจ้งร้านล่วงหน้าเพื่อการบริการที่ดีที่สุด

    FAQ คำถามที่คนชอบถาม

    Q: Thanksgiving ไม่ใช่เทศกาลไทย ไปร่วมฉลองแล้วได้อะไร?

    A: โอกาสดีในการได้ลิ้มลองเมนูพิเศษที่หาทานยากในราคาคุ้มค่า และยังได้ประสบการณ์การทานอาหารในบรรยากาศใหม่ๆ ด้วย

    Q: ราคาที่เห็นเครื่องหมาย ++ กับสุทธิต่างกันยังไง?

    A: เครื่องหมาย ++ หมายถึงราคายังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ ส่วนราคาสุทธิคือราคาสุดท้ายที่ต้องจ่ายแล้วนั่นเอง

    Q: แต่งตัวไปยังไงดี?

    A: เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นโรงแรมและร้านอาหารระดับ fine dining ควรแต่งกายสุภาพเหมาะกับบรรยากาศ อาจไม่ต้องทางการมาก แต่ก็ไม่ควรใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เกินไป

    กลุ่มคนรุ่นใหม่กำลังสนุกสนานกับมื้ออาหาร Thanksgiving

    สรุปส่งท้าย

    Thanksgiving 2024 นี้ ผมว่าคุ้มค่ามากกับการใช้โอกาสนี้ไปทานอาหารดีๆ กับคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนๆ เพราะนอกจากจะได้ลิ้มลองเมนูพิเศษแล้ว ยังได้สร้างความทรงจำดีๆ ในช่วงปลายปีอีกด้วย

    อย่าลืมรีบจองล่วงหน้านะ เพราะที่นั่งมีจำนวนจำกัด! ถ้ามีร้านไหนน่าสนใจเพิ่มเติม หรือเพื่อนๆ มีประสบการณ์การฉลอง Thanksgiving ที่ไหนมาบ้าง มาแชร์กันได้เลย 😊

    แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าครับ!

  • BamBam Concert 2025: จองบัตร ระบบคิวสุ่ม เคล็ดลับ

    BamBam HOMETOWN Concert 2025 คู่มือจองบัตรฉบับสมบูรณ์ – ราคา ระบบคิวสุ่ม และเคล็ดลับได้บัตรแน่นอน

    สวัสดีทุกคน! ตอนนี้ทุกคนคงกำลังตื่นเต้นกับข่าวดีที่ BamBam HOMETOWN Concert กำลังจะกลับมาอีกครั้งในปี 2025 นี้ใช่ไหมคะ? เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่จัดเพื่อแฟนไทยโดยเฉพาะเลยทีเดียว!

    ผมเองก็เป็นแฟนคลับคนหนึ่งที่รอคอยคอนเสิร์ตนี้เหมือนกัน พอได้ยินข่าวก็รีบไปเก็บข้อมูลมาฝากทุกคนให้พร้อมที่สุดสำหรับการจองบัตรในครั้งนี้ รับรองว่าครบทุกเรื่องที่ต้องรู้!

    📅 ข้อมูลคอนเสิร์ตที่ต้องรู้

    คอนเสิร์ตนี้จัดโดย iME Thailand ที่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม ในวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2568 เวลา 20:00 น. เป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ทำให้สะดวกในการเข้าร่วม และมีแขกรับเชิญพิเศษสุดพิเศษอย่าง TIMETHAI, INK WARUNTORN และ Jeff Satur ด้วย!

    บรรยากาศคอนเสิร์ต K-pop ที่มีแสงสีสันสดใสและผู้ชมกำลังเชียร์

    ราคาบัตรที่ประกาศแล้ว:

    • 5,900 บาท – บัตรยืน (ลุ้นถ่าย 1:1)
    • 4,900 บาท – บัตรนั่ง (ลุ้นถ่าย 1:1)
    • 3,900 บาท – บัตรนั่ง (ลุ้นถ่าย 1:1)

    อย่าลืมนะว่ายังมีค่าธรรมเนียมอีก 50 บาท และที่สำคัญบัตรยืน 5,900 บาทนั้น ไม่มีการเรียงลำดับเข้างาน และถ้าสูญหายจะไม่ออกใหม่ทุกกรณีเลย ต้องดูแลดีๆ!

    🎫 ระบบคิวสุ่มคืออะไร? ทำไมต้องรู้?

    เรื่องนี้สำคัญมากๆ สำหรับใครที่อยากได้บัตร! ระบบคิวสุ่ม ของ ThaiTicketMajor ครั้งนี้มีรายละเอียดน่าสนใจแบบนี้เลย:

    10 สาขาหลักที่ร่วมโครงการ:

    • พารากอนซีนีเพล็กซ์
    • โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ
    • สามย่าน มิตรทาวน์
    • เซ็นทรัล ชิดลม
    • เซ็นทรัล ลาดพร้าว
    • เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน
    • เมืองไทยรัชดาลัยเธียเตอร์
    • เซ็นทรัล บางนา
    • เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
    • เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รังสิต

    แต่ละสาขาจะได้รับสิทธิ์เพียง 50 คิวเท่านั้น! น้อยมากๆ เลย ต้องเตรียมตัวให้ดี และที่สำคัญ ผู้ที่ไม่ได้คิวสุ่มยังสามารถไปต่อแถวที่เคาน์เตอร์ได้ตามปกติ

    🚀 วิธีลงทะเบียนรับคิวสุ่มแบบขั้นตอนเดียว

    คนวัยรุ่นกำลังจองบัตรคอนเสิร์ตบนสมาร์ทโฟนด้วยความตื่นเต้น

    1. ลงทะเบียนที่เว็บไซต์ – ไปที่ thaiticketmajor.com/BAMBAM2025
    2. กรอกข้อมูลให้ครบ – ชื่อ-นามสกุล, เบอร์โทร, อีเมล, บัตรประชาชน, สาขาที่ต้องการ
    3. จำกัดสิทธิ์ – 1 อีเมล = 1 ครั้ง, ได้คนละ 1 คิว 1 สาขาเท่านั้น
    4. เข้าใจให้ถูก – คิวนี้เป็นเพียงสิทธิ์ในการซื้อบัตร ไม่รับประกันว่าจะได้บัตร

    ที่สำคัญ! รอบที่ 2 จะเปิดขายวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 เวลา 12:00 น. ทุกช่องทาง จำกัด 4 ใบต่อคน

    💳 วิธีชำระเงินมีอะไรบ้าง?

    เลือกได้ตามสะดวกเลยจ้า:

    • บัตรเครดิต/เดบิต (ค่าธรรมเนียม 3%)
    • K Pay Plus (ค่าธรรมเนียม 0.5%)
    • Shopee Pay/True Money/Alipay/WeChat Pay (ค่าธรรมเนียม 3%)

    🎯 เคล็ดลับได้บัตรแน่นอนจากประสบการณ์จริง

    กลุ่มแฟนคลับ K-pop กำลังดีใจร่วมกัน

    เตรียมตัวล่วงหน้า:

    • ลงทะเบียนรับคิวสุ่มในช่วงเวลาที่กำหนด (19-20 ต.ค. สำหรับรอบแรก)
    • เตรียมข้อมูลส่วนตัวให้พร้อม (ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน)
    • เช็คสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ดี
    • ลองจองบัตรทดสอบก่อนวันจริง

    วันจองบัตร:

    • เข้าเว็บไซต์ก่อนเวลา 30 นาที
    • เปิดแท็บหลายๆ แท็บเผื่อไว้
    • ไม่ต้องกดรีเฟรชบ่อย จะโดนบล็อก
    • ถ้าเต็มเร็ว ให้รอดูรอบที่อาจจะปล่อยเพิ่ม

    ❓ คำถามที่พบบ่อย

    Q: ระบบคิวสุ่มรับประกันว่าได้บัตรไหม?
    A: ไม่รับประกันนะ! คิวนี้เป็นเพียงคิวการซื้อบัตรเท่านั้น ยังต้องรีบจองให้ทัน

    Q: ซื้อผ่านเว็บได้เมื่อไหร่?
    A: กดรับคิวตั้งแต่ 11:00 น. และเริ่มจำหน่าย 12:00 น. ตรง!

    Q: บัตรลุ้นถ่าย 1:1 หมายความว่าไง?
    A: ทุกราคาบัตรมีโอกาสได้ถ่ายรูปคู่กับ BamBam แบบตัวต่อตัว! โอกาสหายากมาก

    🎭 เรื่องสำคัญที่ต้องรู้ก่อนไปคอนเสิร์ต

    บรรยากาศคอนเสิร์ตที่มีผู้ชมแต่งกายโทนสีสุภาพ

    ทาง iME Thailand ได้ประกาศปรับรูปแบบให้เหมาะกับบรรยากาศแห่งความอาลัย โดยขอความร่วมมือให้แต่งกายโทนสีสุภาพ ไม่ฉูดฉาด และร่วมยืนไว้อาลัยก่อนเริ่มการแสดง

    เรื่องนี้สำคัญนะเพื่อนๆ เราเป็นแฟนคลับที่ดี ควรปฏิบัติตามคำขอของทางผู้จัด

    💫 สรุปทิ้งท้าย

    คอนเสิร์ต BamBam HOMETOWN Concert 2025 นี้เป็นโอกาสพิเศษที่ BamBam ตั้งใจจัดให้แฟนๆ ไทยโดยเฉพาะ ใครที่เป็นแฟนตัวจริงคงไม่อยากพลาดแน่นอน

    เตรียมตัวให้ดี ศึกษาให้ครบ และที่สำคัญ… โชคดีทุกคนนะ! หวังว่าจะได้เจอทุกคนที่คอนเสิร์ตนะคะ 💚

    อย่าลืมแชร์บทความนี้ให้เพื่อนแฟนคลับคนอื่นๆ ได้เตรียมตัวพร้อมกันด้วยนะ!

  • Khemjira Concert 2026 วิธีจองบัตรและเคล็ดลับรับคิว

    Khemjira The Golden Time Concert 2026 วิธีจองบัตรและเคล็ดลับรับคิวกดบัตร

    เพื่อนๆ ชาวแฟนคลับเข็มจิราต้องรอดรู้ไหมครับว่า คอนเสิร์ตใหญ่กำลังจะมาถึงแล้ว! Khemjira The Golden Time Concert ประกาศจัดวันที่ 17 มกราคม 2026 ที่ IMPACT Arena เมืองทองธานี และบัตรจะเปิดขายวันที่ 13 ธันวาคม 2025 เวลาเที่ยงตรง นี่เป็นโอกาสดีที่เราจะได้เห็นนักแสดงคนโปรดบนเวทีอีกครั้ง ใครไม่อยากพลาดต้องเตรียมตัวให้พร้อม!

    Khemjira The Golden Time Concert คืออะไร?

    คอนเสิร์ตนี้เป็นงานใหญ่ภายใต้แนวคิด ‘Rooted in Thai. Rising to the world’ หรือการบอกว่า ‘ถึงเวลาทองของความเป็นไทยที่จะทอแสงประกายไปทั่วโลก’ ซึ่งผมว่ามันเข้ากับซีรีส์เข็มจิราต้องรอดสุดๆ เพราะซีรีส์นี้ก็ได้นำเสนอวัฒนธรรมไทยผสมผสานกับเรื่องเหนือธรรมชาติได้อย่างลงตัว

    ฉากเวทีคอนเสิร์ต Khemjira The Golden Time Concert ที่ตกแต่งด้วยองค์ประกอบไทยและสีทอง

    ใครจะมาแสดงบ้าง?

    สำหรับแฟนคลับเก่ง-น้ำปิงเตรียมตัวกรี๊ดให้เต็มที่เลยครับ เพราะทั้งคู่จะมาแสดงบนเวทีคอนเสิร์ตนี้! รายชื่อนักแสดงทั้งหมดที่ร่วมงานมีดังนี้:

    • เก่ง หฤษฎ์ ในบทพ่อครูภรัณ
    • น้ำปิง นภัสกร ในบทเขมจิรา
    • เติ้ล ธนพล
    • เฟิร์สวัน วรรณกร ในบทเจตนา

    นอกจากนี้ยังมีนักแสดงท่านอื่นๆ อีกมากมายที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาจากซีรีส์เข็มจิราต้องรอด เรียกได้ว่าครบทีมเลยทีเดียว!

    ซีรีส์เข็มจิราต้องรอดสร้างปรากฏการณ์อะไรบ้าง?

    ซีรีส์เข็มจิราต้องรอดเป็นซีรีส์โรแมนติกสยองขวัญจากค่าย Mandee Work ที่สร้างปรากฏการณ์ไวรัลจนคว้ารางวัลหลายเวที เรื่องราวเกี่ยวกับเขมจิรา ชายหนุ่มต้องคำสาปที่ต้องเสียชีวิตก่อนอายุ 21 ปี และถูกวิญญาณรำพึงจากอดีตตามหลอกหลอน ทำให้เพื่อนสนิทเจตนาพาไปขอความช่วยเหลือจากพ่อครูภรัณผู้มีวิชาอาคม

    ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในไทยแต่ยังโด่งดังไปถึงต่างประเทศด้วยนะครับ ทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก

    กิจกรรมที่ผ่านมาของเข็มจิราต้องรอด

    ก่อนหน้านี้ทีมงานได้จัดกิจกรรมให้แฟนๆ มาแล้ว 2 ครั้งใหญ่ๆ คือ:

    1. KHEMJIRA’S FINAL BLESSING (งานบุญเขมจิรา) – 25 ต.ค. 2568 ที่ยูเนี่ยน ฮอลล์ ราคาบัตร 1,500-4,500 บาท
    2. KHEMJIRA EP7 TEMPLE FAIR SCREENING – 20 ก.ย. 2568 ที่ MGI HALL ราคาบัตร 1,500-2,900 บาท
    ภาพบรรยากาศงานแฟนมีตติ้ง Khemjira ที่นักแสดงกำลังทำกิจกรรมกับแฟนๆ

    วิธีจองบัตร Khemjira The Golden Time Concert

    นี่คือส่วนสำคัญที่สุดที่ทุกคนรอคอย! มาดูกันเลยว่าจองบัตรยังไงให้ได้ก่อนใคร

    ช่องทางการจองบัตร

    บัตรคอนเสิร์ตสามารถจองได้ผ่านช่องทางเหล่านี้:

    • ThaiTicketMajor ทั้งออนไลน์และเคาน์เตอร์ 11 สาขาหลัก
    • โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์และอีจีวี

    ระบบรับคิวกดบัตร

    ระบบนี้เป็นระบบช่วยจัดระเบียบและป้องกันความแออัด โดยทักข้อความหรือ DM เพื่อจองคิว ระบบจำกัดจำนวนการรับคิวให้เท่าที่สามารถจัดการได้ ซึ่งผมว่ามันช่วยลดความวุ่นวายได้มากเลย

    วันและเวลาที่ต้องจำให้ขึ้นใจ!

    • วันเปิดขายบัตร: 13 ธันวาคม 2025 เวลา 12:00 น.
    • วันแสดง: 17 มกราคม 2026
    • สถานที่: IMPACT Arena เมืองทองธานี

    เคล็ดลับจองบัตรให้ได้แน่นอน!

    จากประสบการณ์การจองบัตรคอนเสิร์ตต่างๆ มา ผมมีเคล็ดลับดีๆ มาแบ่งปันกัน:

    1. เตรียมข้อมูลล่วงหน้า

    • สมัครสมาชิกและล็อกอินเว็บไซต์ขายบัตรล่วงหน้า
    • บันทึกข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตไว้ให้พร้อม
    • ฝึกจองบัตรทดสอบก่อนวันจริง

    2. ใช้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน

    เปิดหลายเบราว์เซอร์และหลายอุปกรณ์ (คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แท็บเล็ต) เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าเว็บไซต์

    3. เข้าเว็บไซต์ก่อนเวลา

    เข้าเว็บไซต์ก่อนเวลาเปิดขายบัตรอย่างน้อย 30 นาที และรีเฟรชหน้าเว็บตรงเวลาพอดี

    4. เลือกโซนสำรองไว้หลายอัน

    เตรียมตัวเลือกโซนสำรองไว้ 2-3 อัน หากโซนที่ต้องการเต็มจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเลือกใหม่

    ภาพบุคคลกำลังจองบัตรคอนเสิร์ตผ่านอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกัน

    5. ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

    ติดตามข่าวสารล่าสุดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของศิลปินและผู้จัดงาน เพื่อไม่ให้พลาดข้อมูลสำคัญใดๆ

    คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

    Q: ถ้าจองคิวไม่ได้ต้องทำยังไง?

    A: สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 02-262-3456 หรือลองใช้วิธีทักข้อความ/DM อีกครั้งในช่วงเวลาที่ไม่ค่อยวุ่น

    Q: บัตรมีกี่ราคาและโซนไหนดีที่สุด?

    A: ราคาบัตรยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วง 1,500-4,500 บาท ตามกิจกรรมที่ผ่านมา โซนที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับงบประมาณและความชอบส่วนตัว

    Q: สามารถเปลี่ยนชื่อผู้ถือบัตรได้ไหม?

    A: ควรตรวจสอบนโยบายของทางผู้จัดงานอีกครั้ง แต่โดยปกติแล้วบัตรคอนเสิร์ตไม่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้ถือได้

    Q: ถ้าไม่ได้บัตรจากช่องทางหลักมีทางอื่นไหม?

    A: สามารถติดตามผ่านช่องทางรองหรือรอประกาศรอบเพิ่มเติม แต่ต้องระวังบัตรปลอมให้ดี

    Q: เด็กเข้าชมได้ไหม?

    A: ควรตรวจสอบข้อกำหนดจากผู้จัดงานอีกครั้ง แต่คอนเสิร์ตทั่วไปส่วนใหญ่เด็กสามารถเข้าชมได้เมื่อมีผู้ปกครอง陪同

    สรุปเตรียมตัวให้พร้อม!

    คอนเสิร์ต Khemjira The Golden Time Concert 2026 เป็นโอกาส难得ที่เราจะได้เห็นนักแสดงคนโปรดบนเวทีในธีมงานที่สวยงามและมีความหมาย ผมแนะนำให้เพื่อนๆ เตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่เนิ่นๆ จำวันเวลาให้ดี และใช้เคล็ดลับที่ผมแบ่งปันไป เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้บัตร

    สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนโชคดีในการจองบัตรนะครับ และเจอกันที่คอนเสิร์ต! สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้จากช่องทางทางการของศิลปินและผู้จัดงาน

    ภาพบรรยากาศคอนเสิร์ตที่แฟนๆ กำลังสนุกสนานและเชียร์ศิลปินบนเวที

  • กอดอุ่น BUTTERBEAR เพลงใหม่ เนื้อเพลง ความหมาย ฮีลใจ

    กอดอุ่น (Warm Hugs) เพลงใหม่ BUTTERBEAR ที่กำลังฮีลใจวัยรุ่นทั้งประเทศ!

    สวัสดีทุกคน! วันนี้เรามีเพลงน่ารักๆ มาแนะนำให้ฟังกันค่ะ นั่นคือเพลง “กอดอุ่น (Warm Hugs)” เพลงใหม่ล่าสุดของ BUTTERBEAR หรือที่เรารู้จักกันในชื่อน้องหมีเนยนั่นเอง 💛

    ใครที่เป็นมัมหมีหรือพ่อหมีอยู่แล้วคงจะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย เพราะเพลงนี้เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2025 เวลา 12:00 น. แบบเซอร์ไพรส์สุดๆ และที่เจ๋งกว่านั้นคือเพลงนี้ติดอันดับ #เพลงมาแรงอันดับที่ 12 บน YouTube ตั้งแต่วันแรกที่ปล่อยเลยทีเดียว!

    ทำความรู้จัก BUTTERBEAR ให้มากขึ้น

    ก่อนจะไปฟังเพลงกัน เรามาทำความรู้จักน้องหมีเนยกันก่อนดีกว่า BUTTERBEAR เป็นมาสคอตจากแบรนด์ขนมปัง Butterbear ภายใต้ Coffee Beans by Dao ที่โด่งดังจากวิดีโอบน TikTok @butterbear.th ที่มียอดวิวหลายล้านเลยนะ

    ตัวการ์ตูน BUTTERBEAR หรือหมีเนยในลักษณะน่ารัก ยิ้มแย้ม พร้อมถือขนมปังรูปหัวใจ

    จริงๆ แล้วนี่ไม่ใช่เพลงแรกของน้องหมีเนยนะ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีเพลงน่ารักๆ ออกมาให้เราได้ฟังกันแล้ว เช่น “It’s Butterbear!” ที่ปล่อยในปี 2024, “น่ารักมั้ยไม่รู้” ในเดือนมิถุนายน 2024, “ฮีลใจ (Here For You)” ที่ปล่อยเดือนพฤศจิกายน 2024 และ “Buttery World” ที่ปล่อยเมื่อธันวาคม 2024 รวมถึง “รักเพื่อนไม่ซึมเปื้อน” ในปี 2025 ด้วย

    เนื้อเพลง “กอดอุ่น (Warm Hugs)” ที่บอกเล่าความรู้สึกจริงๆ

    พอเราได้ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกเลยว่ามันฟังสบายมากๆ เนื้อเพลงพูดถึงตัวตนของหมีเนย ของกินที่ชอบ รูปลักษณ์ภายนอกที่คนพูดถึง และที่สำคัญคือสอดแทรกการให้กำลังใจด้วยคำว่า “หากอยากพักใจก็มาหากอดได้เสมอ” นี่คือจุดที่ทำให้เพลงนี้ฮีลใจได้

    ภาพศิลปะนามธรรมที่สื่อถึงความอบอุ่นและความสบายใจตามแนวคิดเพลงกอดอุ่น

    ทีมงานเบื้องหลังเพลงนี้ก็คิวใหญ่ไม่เบานะ แต่งเพลงและโปรดิวเซอร์โดยแอ้ม-อัจฉริยา ดุลยไพบูลย์ มีโปรดิวเซอร์ร่วมคือชลทัศน์ ชาญศิริเจริญกุล และกำกับ MV โดย NAMOH ซึ่งทีมงานระดับนี้รับรองว่าคุณภาพเพลงและมิวสิกวิดีโอต้องเป๊ะปังแน่นอน

    เรื่องราวใน MV ที่น่ารักเกินห้ามใจ

    สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู MV เราขอแนะนำให้ไปดูด่วนเลยค่ะ เพราะเรื่องราวใน MV เพลงกอดอุ่น น่ารักมากๆ

    หมีเนยกลายเป็นเด็กมัธยมที่แอบชอบรุ่นพี่สุดหล่อ (รับบทโดย จั๊มพ์ พิสิฐพล) โดยน้องหมีเนยจะแอบเอาขนมไปให้ ไปตามเชียร์ ไปแอบดู และสุดท้ายก็รวบรวมความกล้าสารภาพรัก ซึ่งเป็นเรื่องราวที่หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์คล้ายๆ กัน ทำให้เราดูแล้วยิ้มตามไปด้วย

    ฉากจาก MV กอดอุ่นที่แสดงน้องหมีเนยในโรงเรียนกำลังแอบดูรุ่นพี่

    ทำไมเพลง “กอดอุ่น” ถึงฮีลใจได้จริง?

    หลังจากที่เราฟังเพลงนี้หลายรอบแล้ว ก็พบว่ามีหลายเหตุผลที่ทำให้เพลงนี้ให้ความรู้สึกดีๆ และฮีลใจได้จริงๆ:

    เนื้อเพลงที่เข้าถึงความรู้สึก

    เนื้อเพลงพูดถึงการยอมรับตัวเอง การให้กำลังใจ และการเป็นที่พึ่งทางใจให้กับคนอื่น ซึ่งในยุคที่ทุกคนมีความเครียดกันมาก การได้ฟังเพลงที่บอกว่า “เราอยู่ตรงนี้เสมอนะ” มันรู้สึกดีจริงๆ

    ทำนองฟังสบาย

    เพลงนี้เป็นเพลงป๊อปฟังสบายที่ชวนนึกถึงความรู้สึกดีๆ จากคนที่เรารัก ทำนองไม่หนักเกินไป ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย

    ธีมที่ตรงกับยุคสมัย

    ธีมหลักของเพลงคือความรักตัวเอง ความชื่นชม ความสัมพันธ์อบอุ่น และพลังบวก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนยุคนี้กำลังให้ความสำคัญกันมากขึ้น

    FAQ: คำถามที่มักถูกถามเกี่ยวกับเพลงกอดอุ่น

    Q: เพลง “กอดอุ่น” ฟังได้ที่ไหนบ้าง?

    A: ฟังเพลงนี้ได้บนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ เช่น YouTube, Apple Music, และ Spotify เลยค่ะ

    Q: BUTTERBEAR มีเพลงอะไรบ้างก่อนหน้านี้?

    A: ก่อนเพลง “กอดอุ่น” หมีเนยมีเพลงออกมาแล้วหลายเพลง เช่น “It’s Butterbear!”, “น่ารักมั้ยไม่รู้”, “ฮีลใจ (Here For You)”, “Buttery World” และ “รักเพื่อนไม่ซึมเปื้อน” ซึ่งแต่ละเพลงก็มีความน่ารักเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

    Q: ทำไมเพลงนี้ถึงชื่อ “กอดอุ่น”?

    A: เพราะเนื้อเพลงสื่อถึงการเป็นที่พึ่งทางใจ ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กอดจากคนที่รัก ซึ่งสอดคล้องกับชื่อเพลงภาษาอังกฤษว่า “Warm Hugs”

    Q: MV มีเรื่องราวอย่างไร?

    A: เป็นเรื่องราวของหมีเนยในวัยมัธยมที่แอบชอบรุ่นพี่สุดหล่อ และต้องรวบรวมความกล้าเพื่อสารภาพรัก ซึ่งเป็นพล็อตเรื่องที่ดูแล้วยิ้มตามได้ไม่ยาก

    สรุปแล้ว “กอดอุ่น” คือเพลงที่ควรฟัง!

    หลังจากที่เราได้ฟังเพลงนี้และดู MV แล้ว ต้องบอกว่าเพลง “กอดอุ่น (Warm Hugs)” ของ BUTTERBEAR เป็นอีกเพลงที่ตอบโจทย์มากๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาเพลงฟังสบายๆ ให้ความรู้สึกดี เป็นกำลังใจ และที่สำคัญคือน่ารักมาก!

    ภาพที่สื่อถึงความรู้สึกอบอุ่นจากการกอดตามแนวคิดเพลง

    ไม่แปลกใจเลยที่เพลงนี้จะติดอันดับเพลงมาแรงตั้งแต่วันแรกที่ปล่อย เพราะทั้งทำนอง เนื้อร้อง และมิวสิกวิดีโอล้วนแต่น่ารักและให้ความรู้สึกดีทั้งนั้น สำหรับใครที่ยังไม่ได้ฟัง เราขอแนะนำให้ไปฟังและดู MV กันดูนะคะ รับรองว่าจะต้องชอบอย่างแน่นอน!

    แล้วเพื่อนๆ ล่ะคะ ฟังเพลงนี้แล้วรู้สึกอย่างไร? มาแชร์ความรู้สึกกันได้นะ 💛

  • The Manipulated EP 7-8: สรุป รีวิว และวิธีดู

    เฮ้เพื่อนๆ! ตอนนี้ใครที่ติดตามซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญอย่าง The Manipulated ต้องตื่นเต้นแน่ๆ เพราะเพิ่งออก EP 7-8 ไปเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตัวผมเองก็รอไม่ไหวเหมือนกัน ต้องรีบดูแล้วมารีวิวให้เพื่อนๆ ฟังเลย

    ฉากตึงเครียดจากซีรีส์ The Manipulated EP 7 ที่แสดงให้เห็น Tae-joong กำลังตัดสินใจสู้กลับ

    สรุปเนื้อเรื่อง EP 7-8 ที่ต้องรู้!

    เพื่อนๆ ที่ติดตามมาตั้งแต่ต้นคงรู้ดีว่าใน EP 6 ที่ผ่านมา Park Tae-joong เกือบจะหนีรอดจากเกมอันตรายของ An Yo-han ได้สำเร็จ แต่คราวนี้ใน EP 7 ที่เพิ่งออกอากาศเมื่อวันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2025 นั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!

    สิ่งที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากคือคราวนี้ Park Tae-joong ไม่ยอมแพ้เหมือนครั้งก่อนแล้ว เขาตัดสินใจที่จะสู้กลับ! การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นจุดหักเหสำคัญของเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งผู้กำกับ Kim Chang-joo ก็มีชื่อเสียงในการสร้างฉากที่มีความตึงเครียดและพลิกผันสูงอยู่แล้ว

    ฉากแอคชั่นการต่อสู้ในซีรีส์ The Manipulated ที่แสดงให้เห็นการต่อต้านของตัวละครหลัก

    ไฮไลท์ที่น่าจับตามอง

    1. จุดเปลี่ยนของตัวละครหลัก

    Park Tae-joong จากผู้ที่เกือบยอมแพ้กลายเป็นผู้ที่ลุกขึ้นสู้ เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกได้ถึงพัฒนาการของตัวละครที่ชัดเจนมาก การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่การหนีเอาตัวรอด แต่เป็นการยอมรับและเผชิญหน้ากับปัญหา

    2. เกมแห่งความอยู่รอดที่เข้มข้นขึ้น

    An Yo-han ยังคงจัดการแข่งขันที่น่าสะพรึงกลังต่อไป ซึ่งการหลบหนีของ Park Tae-joong ใน EP 7 นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่นำไปสู่ช่วงเวลาตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ

    3. ความลับที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผย

    เหมือนกับที่แฟนๆ บนโซเชียลมีเดียคาดการณ์ไว้ เรื่องราวเริ่มคลี่คลายมากขึ้น เรากำลังจะได้เห็นเบื้องหลังและแรงจูงใจที่แท้จริงของตัวละครต่างๆ

    ทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงฮิตขนาดนี้?

    ผมสังเกตว่าตอนนี้ The Manipulated กำลังเป็นกระแสแรงจริงๆ บนโซเชียลมีเดีย มีการพูดถึงอย่างแพร่หลาย ซึ่งมาจากหลายปัจจัย:

    • แนวเรื่องที่ตรงใจ – ซีรีส์แนวล้างแค้น ระทึกขวัญ เป็นที่นิยมเสมอ
    • การกำกับที่ยอดเยี่ยม – โดย Kim Chang-joo ที่มีผลงานการสร้างความตึงเครียดได้ดีเลิศ
    • จังหวะการเล่าเรื่อง – ไม่ยืดเยื้อ มีการพัฒนาตัวละครและพล็อตเรื่องอย่างต่อเนื่อง
    กลุ่มคนกำลังดูซีรีส์เกาหลีแนวระทึกขวัญบน Disney+ ด้วยความตื่นเต้น

    ดู The Manipulated ที่ไหน? ดูยังไง?

    สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเริ่มดูหรือติดตามต่อ ผมมีข้อมูลมาบอกค่ะ!

    แพลตฟอร์มและกำหนดการ

    • แพลตฟอร์ม: Disney+ (ไทย, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย) และ Disney+ Hotstar (อินเดีย)
    • ซับไทย: Disney+ มีซับไตเติลภาษาไทยให้เลือกชม
    • จำนวนตอน: ทั้งหมด 12 ตอน
    • วันออกอากาศ: ทุกวันพุธ ครั้งละ 2 ตอน
    • EP 7-8: ออกอากาศแล้วเมื่อวันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2025

    วิธีดูง่ายๆ

    1. สมัครสมาชิก Disney+ ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
    2. เลือกแพ็กเกจที่เหมาะสม (ในไทยเริ่มต้นที่ 199 บาท/เดือน สำหรับแพ็กเกจ Standard)
    3. ค้นหา “The Manipulated” และเริ่มดูได้ทันที!

    ทำไมต้องดู The Manipulated?

    จากที่ผมดูมาจนถึง EP 7 ผมขอแนะนำว่าใครที่ชอบซีรีส์แนวนี้ไม่ควรพลาดจริงๆ เพราะ:

    เนื้อหาตื่นเต้น – ไม่มีตอนไหนน่าเบื่อ
    พัฒนาตัวละครดี – เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของตัวละครชัดเจน
    เหมาะกับคนชอบคิดตาม – มีปริศนาให้แก้ตลอดเรื่อง
    ภาพและเสียงสวยงาม – ระดับ Production ระดับ Premium

    คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

    Q: ดู The Manipulated EP 7-8 แล้วยังไงต่อ?

    A: ซีรีส์ออกอากาศทุกวันพุธ ครั้งละ 2 ตอน ดังนั้นสัปดาห์หน้าจะเป็น EP 9-10 ตามกำหนดการปกติ

    Q: ต้องดูตอนก่อนหน้านี้ก่อนไหม?

    A: แนะนำให้ดูตั้งแต่ต้นนะครับ เพราะเรื่องราวต่อเนื่องกัน และมีรายละเอียดสำคัญที่ทำให้เข้าใจตัวละครและพล็อตเรื่องมากขึ้น

    Q: ซีรีส์จบตอนที่เท่าไหร่?

    A: The Manipulated มีทั้งหมด 12 ตอน ดังนั้นเหลืออีกเพียง 4 ตอนก็จะจบซีรีส์แล้ว!

    Q: ดูบนแพลตฟอร์มอื่นได้ไหม?

    A: ขณะนี้สตรีมได้เฉพาะบน Disney+ และ Disney+ Hotstar เท่านั้นปัจจุบัน

    สรุปส่งท้าย

    สำหรับผมแล้ว The Manipulated EP 7-8 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเรื่องจริงๆ การที่ Park Tae-joong ตัดสินใจสู้กลับแทนที่จะยอมแพ้เหมือนเดิมทำให้เรื่องน่าติดตามขึ้นมาก ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่ได้ลองดู ผมแนะนำให้ไปเริ่มต้นดูตั้งแต่ตอนต้นเลย เพราะซีรีส์เรื่องนี้คุ้มค่ากับเวลาจริงๆ

    ใครที่ดูจบ EP 7-8 แล้วมาคอมเมนต์คุยกันได้นะครับ ว่าคิดยังไงกับพัฒนาการของ Park Tae-joong และคาดการณ์ว่าต่อจากนี้เรื่องจะเป็นยังไงบ้าง!

    แล้วพบกันใหม่ในรีวิวสัปดาห์หน้าสำหรับ EP 9-10 นะครับ เพื่อนๆ 😊

  • Fuggler: ตุ๊กตาฟันหลอมาแรง คู่แข่ง Labubu 2025

    Fuggler ตุ๊กตาฟันหลอสุดป่วน คู่แข่ง Labubu ที่กำลังมาแรง

    ช่วงนี้ใครๆ ก็พูดถึง Fuggler กันทั้งนั้นเลยใช่ไหมครับ? 🤔 เห็นใน TikTok แล้วก็ Instagram เต็มไปหมดเลย บางคนบอกว่าเจ้าตุ๊กตาหน้าตาป่วนๆ ตัวนี้กำลังมาแรงจนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของ Labubu เลยทีเดียว!

    คอลเลกชัน Fuggler ตุ๊กตามอนสเตอร์หน้าตาป่วนที่มีฟันปลอมเหมือนมนุษย์

    Fuggler คืออะไร? ทำไมถึงฮิตขนาดนี้

    Fuggler หรือชื่อเต็มคือ Funny Ugly Monster เป็นตุ๊กตามอนสเตอร์หน้าตาไม่เหมือนใครที่มีจุดเด่นคือ ฟันปลอมเหมือนมนุษย์ จริงๆ นะครับ! ไม่ใช่ฟันการ์ตูนน่ารักๆ แต่เป็นฟันเทียมจริงๆ ที่ทำให้ตุ๊กตาแต่ละตัวดูน่าขนลุกแต่ก็น่ารักในแบบของมัน

    ฟันแต่ละตัวไม่เหมือนกันเลย บางตัวมีแค่กราม บางตัวมีฟันหน้าเต็มชุด บางตัวมีฟันหักหรือไม่เรียงตัว ทำให้แต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ✨

    ประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ: ในปี 2010 Louise McGettrick นักเขียนชาวอังกฤษค้นพบฟันปลอมมนุษย์เป็นกองๆ ในถุงซิปล็อกบน eBay ขณะหาของขวัญคริสต์มาสให้สามี เธอได้ไอเดียนำฟันปลอมไปเย็บติดตุ๊กตาเองและลงขายบน Etsy ปรากฏว่าขายหมดเกลี้ยง! ต่อมาในปี 2018 Spin Master บริษัทของเล่นยักษ์ใหญ่แคนาดาซื้อลิขสิทธิ์ และปัจจุบัน ZURU ได้รับสิทธิ์การผลิตและจัดจำหน่าย Fuggler จาก Addo Play

    ทำไม Fuggler ถึงกำลังเป็นกระแส?

    ผมว่าความฮิตของ Fuggler เกิดขึ้นตามกระแส ‘Ugly is the new cute’ ที่กำลังมาแรงมากๆ ในปีนี้! คนเริ่มเบื่อตุ๊กตาน่ารักแบบเดิมๆ แล้วหันมาสนใจของสะสมที่มีบุคลิกเฉพาะตัวมากขึ้น

    ที่สำคัญคือ Fuggler เริ่มได้รับความสนใจในจีนจนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งของ Labubu โดยมียอดขายทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นกว่า 247% ในปี 2024 เลยทีเดียว! 📈 ถึงแม้ว่า Labubu ยังคงเป็นผู้นำตลาดอยู่ แต่ Fuggler ก็กำลังสร้างกระแสได้อย่างน่าสนใจ

    ภาพใกล้เห็นรายละเอียดฟันปลอมของ Fuggler ที่เหมือนฟันมนุษย์จริง

    Fuggler มีคอลเลกชันอะไรบ้าง?

    Fuggler มีหลากหลายคอลเลกชันตอบโจทย์แฟนๆ ทุกกลุ่มเลยครับ เป็นของสะสมสำหรับคนยุคใหม่ที่อยากได้ตุ๊กตาที่แตกต่างจากรูปแบบเดิมๆ ไม่ใช่แค่น่ารัก แต่มีคาแรกเตอร์กวนๆ และดีไซน์แปลกใหม่

    แต่ละคอลเลกชันก็จะมีธีมแตกต่างกันไป บางตัวเป็นมอนสเตอร์สีสันสดใส บางตัวดูน่ากลัวแต่ก็น่ารักในแบบของมัน ที่สำคัญคือฟันปลอมที่เป็นจุดขายหลักของ Fuggler นั้นไม่เหมือนใครจริงๆ!

    Fuggler ราคาเท่าไหร่? ซื้อที่ไหนได้บ้าง?

    ราคา

    Fuggler มีหลายไซส์และคอลเลกชัน ราคาจึงแตกต่างกันตามขนาดและความหายาก โดยทั่วไปราคาเริ่มต้นประมาณ 350-1,750 บาท สำหรับรุ่นทั่วไปอาจจะเริ่มต้นที่ราคาไม่สูงมาก แต่ถ้าเป็นรุ่นพิเศษหรือรุ่น Limited Edition ราคาก็จะสูงขึ้นตามความหายาก

    แหล่งซื้อในไทย

    สำหรับเพื่อนๆ ในไทยที่อยากเริ่มสะสม Fuggler ผมไปหาข้อมูลมาแล้วว่า Ubuy Thailand เป็นหนึ่งในแหล่งซื้อ Fuggler ออนไลน์ในไทย ที่น่าเชื่อถือ และบางช่วงอาจมีโปรโมชั่นลดราคาให้อีกด้วย!

    นอกจากนี้ก็อาจจะหาซื้อได้ตามร้านขายของสะสมหรือเช็คเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Fuggler และ ZURU แต่ผมแนะนำให้เช็คให้ดีก่อนซื้อนะครับ

    Fuggler ตุ๊กตามอนสเตอร์จัดแสดงในสไตล์นักสะสมยุคใหม่

    วิธีเลือกซื้อ Fuggler ให้ได้ของแท้ หลีกเลี่ยงของปลอม

    เรื่องนี้สำคัญมากครับ! เพราะความนิยมของ Fuggler ที่พุ่งสูงขึ้น ทำให้มีของปลอมออกมาจำนวนมาก วิธีสังเกตง่ายๆ มีดังนี้:

    1. ตรวจสอบฟันปลอม

    ของแท้ฟันปลอมจะมีความละเอียดสูง เหมือนฟันมนุษย์จริงๆ ไม่ใช่ฟันพลาสติกธรรมดา ฟันแต่ละซี่มีความแตกต่างกัน ไม่สมมาตรแบบธรรมชาติ

    2. ตรวจสอบวัสดุตัวตุ๊กตา

    วัสดุควรมีคุณภาพดี ไม่มีกลิ่นฉุนจากสารเคมี ขนนุ่มได้มาตรฐาน การเย็บประณีต ไม่มีรอยเย็บที่หยาบ

    3. ดูแท็กแบรนด์

    ของแท้จะมีแท็กแบรนด์ Fuggler ที่ชัดเจน มีข้อมูลครบถ้วน และพิมพ์อย่างคมชัด

    4. ซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้

    ซื้อ Fuggler จากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ หรือร้านค้าที่มีรีวิวดีๆ จะช่วยลดความเสี่ยงในการได้ของปลอม

    ทำไม Fuggler ถึงน่าสนใจสำหรับนักสะสม?

    ผมว่าจุดเด่นของ Fuggler คือ ความแตกต่าง และ ความเป็นเอกลักษณ์ ครับ ในเมื่อตลาดเต็มไปด้วยตุ๊กตาน่ารักๆ การมีของสะสมที่ดูป่วนๆ แปลกๆ แต่น่ารักในแบบของมันเองก็ทำให้คอลเลกชันไม่ซ้ำใคร

    และที่สำคัญคือกระแสบนโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะ Xiaohongshu ที่กำลังเกิดกระแสไวรัลครั้งใหม่ ทำให้ Fuggler กลายเป็นไอเทมที่ฮิตมากในหมู่คนรุ่นใหม่

    คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

    Q: Fuggler ต่างจาก Labubu ยังไง?

    A: Fuggler จะมีจุดเด่นที่ฟันปลอมเหมือนมนุษย์และหน้าตาที่ดูป่วนกว่า ในขณะที่ Labubu มีดีไซน์น่ารักน่ากอดมากกว่า

    Q: Fuggler เหมาะกับใคร?

    A: เหมาะกับคนที่ชอบของสะสมแนว ‘Ugly is the new cute’ และอยากได้อะไรที่แตกต่างจากตุ๊กตาทั่วไป

    Q: ราคาเริ่มต้นอยู่ที่เท่าไหร่?

    A: ราคาขึ้นอยู่กับขนาดและคอลเลกชัน แต่โดยทั่วไปเริ่มต้นที่ 350-1,750 บาท

    Q: ซื้อที่ไหนมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้?

    A: ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการหรือร้านค้าที่มีรีวิวดีๆ อย่าง เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Fuggler

    Q: Fuggler เป็นของสะสมที่คุ้มค่าไหม?

    A: ถ้าชอบแนวนี้ก็คุ้มค่าครับ เพราะทั้งน่าสะสมและกำลังเป็นเทรนด์ร้อนแรง

    สรุป

    Fuggler เป็นมากกว่าแค่ตุ๊กตาแต่เป็นของสะสมที่แสดงถึงบุคลิกและสไตล์เฉพาะตัวของผู้เป็นเจ้าของ ด้วยดีไซน์ที่แตกต่างและความป่วนที่ไม่เหมือนใคร ทำให้มันกำลังกลายเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองของ Labubu ในตลาดของสะสม

    สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเทมสะสมชิ้นใหม่ที่ทั้งเท่และไม่เหมือนใคร Fuggler น่าจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ! และถ้าสนใจจริงๆ ผมแนะนำให้ เช็คราคา Fuggler ล่าสุด ก่อนตัดสินใจซื้อนะครับ

    แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ คิดว่า Fuggler น่าสนใจแค่ไหน? หรือมีของสะสมตัวโปรดอื่นๆ บ้าง? มาแชร์กันได้นะครับ! 👇

  • เที่ยวมาเก๊า 2025 โปรแอร์เอเชีย ตั๋วเริ่ม 8,445 บาท

    ✈️ ไปมาเก๊าไปกับแอร์เอเชีย 2025 – รวมโปรโมชั่นสุดคุ้มที่คุณต้องรู้!

    เพื่อนๆ เคยคิดอยากไปมาเก๊าไหมครับ? ผมว่าเป็นจุดหมายที่หลายคนน่าจะอยากไปลองสัมผัสสักครั้ง เพราะอยู่ไม่ไกลจากไทย แค่บินประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาทีก็ถึงแล้ว! และตอนนี้มีโอกาสทองสำหรับคนที่วางแผนจะไปเที่ยวมาเก๊าในปี 2025 เพราะมีแคมเปญพิเศษจาก Macao Wonder Fest 2025 ที่เพิ่งเปิดตัวมา

    🎉 Macao Wonder Fest 2025 คืออะไร?

    นี่คือแคมเปญท่องเที่ยวออนไลน์ครั้งใหญ่ที่จัดโดยการท่องเที่ยวมาเก๊า โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ชั้นนำของไทยอย่าง Air Macau, Thai Lion Air และที่สำคัญเลยคือ AirAsia ที่หลายคนชอบใช้บริการ เพราะมักมีดีลเด็ดๆ ให้ลุ้นอยู่เสมอ

    แคมเปญนี้จะเปิดดีลพิเศษสำหรับตั๋วเครื่องบิน โรงแรม แพ็กเกจทัวร์ และกิจกรรมในมาเก๊า เป็นเวลา 15 วันเท่านั้น! ซึ่งผมว่าเป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับนักเดินทางที่อยากไปเที่ยวแบบประหยัดแต่ได้ประสบการณ์ครบถ้วน

    ฉากเทศกาล Macao Wonder Fest 2025 ที่มีผู้คนกำลังสนุกสนานกับโปรโมชั่นท่องเที่ยว

    💰 โปรโมชั่นเด็ดที่ห้ามพลาด!

    e-Voucher สูงสุด 1,500 บาท

    นี่คือของขวัญชิ้นใหญ่ที่หลายคนรอคอย! สำหรับลูกค้าที่จองและชำระเงินระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2025 และเดินทางภายในวันที่ 31 มกราคม 2026 จะได้รับ e-Voucher มูลค่าสูงสุด 1,500 บาทเลยทีเดียว แต่อย่าลืมนะครับว่าจำกัดเพียง 200 สิทธิ์เท่านั้น ใครคิดจะไปก็ต้องรีบจองเร็วๆ หน่อย

    Voucher ตั๋วเครื่องบิน 500 บาท

    สำหรับผู้โดยสารที่มีตั๋วเครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพ-มาเก๊า ที่เดินทางระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2025 จะได้รับ voucher เงินสด 500 บาทที่บูธด้วยนะครับ ดีลนี้ก็จำกัดแค่ 200 สิทธิ์เช่นกัน

    ✈️ ราคาตั๋วแอร์เอเชียเป็นยังไงบ้าง?

    พอไปเช็คดูแล้ว ตั๋วเครื่องบินไปมาเก๊ากับแอร์เอเชียเริ่มต้นที่ 8,445 บาทต่อคน จากสนามบินดอนเมืองครับ ซึ่งผมว่าคุ้มมากสำหรับการบินไป-กลับ

    เส้นทางการบินคือ กรุงเทพ (ดอนเมือง) – มาเก๊า ไป-กลับ ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที ซึ่งเหมาะมากกับการเที่ยวแบบสั้นๆ 3 วัน 2 คืน หรือถ้าอยากเที่ยวให้ทั่วก็สามารถเลือก 4 วัน 3 คืนได้

    🏨 ไปมาเก๊าเที่ยวไหนดี?

    จุดแลนด์มาร์คสำคัญต่างๆ ในมาเก๊า

    มาเก๊ามีที่เที่ยวหลากหลายทั้งสถานที่ทางประวัติศาสตร์และความบันเทิงสมัยใหม่ ที่น่าสนใจได้แก่:

    • Ruins of St. Paul’s (ซากโบสถ์เซนต์ปอล) – สัญลักษณ์สำคัญของมาเก๊า
    • Senado Square (จัตุรัสเสนาโด) – จัตุรัสกลางเมืองที่มีสถาปัตยกรรมโปรตุเกส
    • Macau Tower (มาเก๊าทาวเวอร์) – สำหรับคนชอบความท้าทายและอยากเห็นวิวเมืองจากที่สูง
    • The Venetian Macao – โรงแรมและคาสิโนชื่อดังที่เหมือนอยู่กลางเวนิส
    • A-Ma Temple (วัดอาม้า) – วัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
    • Fisherman’s Wharf (ฟิชเชอร์แมนส์วอร์ฟ) – ย่านบันเทิงและช้อปปิ้ง

    💡 เคล็ดลับประหยัดงบไปมาเก๊า

    ผมมีเคล็ดลับดีๆ มาฝากสำหรับนักเดินทางที่อยากไปมาเก๊าแบบประหยัดแต่ได้ประสบการณ์เต็มที่:

    1. จองตั๋วล่วงหน้าในช่วงโปรโมชั่น

    ช่วง Macao Wonder Fest 2025 นี่คือเวลาทองสำหรับการจองเลยครับ เพราะมีทั้ง e-Voucher และ voucher เงินสดให้ใช้

    2. เลือกที่พักนอกเกาะไต้ป่า

    โรงแรมในเกาะไต้ป่ามักจะราคาสูงกว่า ถ้าอยากประหยัดลองมองหาโรงแรมนอกเกาะนี้ดูครับ ราคาจะถูกกว่ามาก

    3. ใช้บริการรถบัสสาธารณะ

    มาเก๊ามีบริการรถบัสสาธารณะทั้งแบบฟรีและราคาถูก ซึ่งสะดวกและช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มาก

    4. กินอาหารท้องถิ่น

    แทนที่จะกินแต่ในโรงแรม ลองออกไปหาอาหารท้องถิ่นตามร้านเล็กๆ ร้านข้างทางดูครับ ทั้งอร่อยและราคาย่อมเยากว่า

    5. ซื้อแพ็กเกจทัวร์

    การซื้อแพ็กเกจทัวร์ที่รวมตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และทัวร์ไว้ด้วยกันมักจะคุ้มค่ากว่าจองแยกครับ

    กลุ่มนักท่องเที่ยววัยรุ่นกำลังใช้บริการสาธารณะและกินอาหารท้องถิ่นในมาเก๊า

    📱 ช่องทางการจองที่แนะนำ

    สำหรับใครที่สนใจ สามารถจองได้ผ่านช่องทางเหล่านี้:

    🗓️ ระยะเวลาเดินทางแนะนำ

    ผมแนะนำให้วางแผนเดินทางระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2025 ถึงมกราคม 2026 นะครับ จะได้ใช้สิทธิ์โปรโมชั่นและ e-Voucher ได้เต็มที่

    ❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

    Q: e-Voucher 1,500 บาท ใช้ได้กับอะไรบ้าง?

    A: e-Voucher นี้สามารถใช้เป็นส่วนลดสำหรับการจองบริการต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มของ Macao Wonder Fest 2025 ได้ครับ

    Q: ต้องจองผ่านช่องทางไหนถึงจะได้โปรโมชั่น?

    A: จองผ่าน ช่องทางที่เป็นทางการของแคมเปญ หรือเว็บไซต์และแอปของ AirAsia ครับ

    Q: ถ้าไม่ได้เป็นสมาชิก KTC จะได้ส่วนลดไหม?

    A: ได้แน่นอนครับ! โปรโมชั่นนี้เปิดให้ทุกคน แต่สมาชิก KTC อาจได้สิทธิพิเศษเพิ่มเติม

    Q: ไปมาเก๊าควรเที่ยวกี่วันถึงจะคุ้ม?

    A: ผมแนะนำ 3 วัน 2 คืนสำหรับเที่ยวไฮไลต์หลัก หรือ 4 วัน 3 คืนถ้าอยากเที่ยวให้ครบทุกที่ครับ

    Q: ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างสำหรับการเดินทาง?

    A: พาสปอร์ตที่มีอายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไปครับ

    🎯 สรุป

    โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่บ่อยนะครับ นักเดินทางที่วางแผนจะไปมาเก๊าในปี 2025 นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดแล้ว! ทั้งโปรโมชั่นตั๋วเครื่องบิน e-Voucher ส่วนลดต่างๆ และอากาศที่กำลังดี

    ผมว่าแคมเปญ Macao Wonder Fest 2025 นี้ตอบโจทย์คนที่อยากเที่ยวต่างประเทศแบบไม่ไกลมาก ใช้งบไม่เยอะ แต่ได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่คุ้มค่าจริงๆ

    ใครมีแผนจะไปมาเก๊า ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจองเลยนะครับ ก่อนที่สิทธิ์ดีๆ จะเต็ม! แล้วอย่าลืมมาแบ่งปันประสบการณ์การเดินทางให้ฟังกันบ้างนะ 😊

    หมายเหตุ: ข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้เป็นข้อมูลล่าสุด ณ วันที่เขียน แต่แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดและเงื่อนไขโปรโมชั่นอีกครั้งก่อนการจองเสมอนะครับ!

  • GMMTV 2026: คู่จิ้นคัมแบ็ก ซีรีส์ใหม่ 20+ เรื่อง

    สวัสดีเพื่อนๆ! ใกล้ถึงเวลาสนุกกันอีกแล้วนะ สำหรับแฟนซีรีส์ GMMTV ทั้งหลาย เพราะงานใหญ่ประจำปีอย่าง GMMTV 2026 กำลังจะมาถึงแล้ว! 🎉

    ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของซีรีส์ไทย คงจะรู้ดีว่างานนี้สำคัญขนาดไหน เพราะนี่คืองานที่เราจะได้รู้กันชัดๆ ว่าปีหน้าจะมีซีรีส์ใหม่อะไรให้เราติดตามบ้าง คู่จิ้นโปรดจะกลับมาเมื่อไหร่ และจะมีรูกี้คนไหนมาให้เราตกหลุมรักบ้าง

    ภาพนักแสดง GMMTV ยิ้มและโบกมือให้แฟนๆ ในงานอีเวนต์

    GMMTV 2026 คืออะไร? ทำไมต้องตื่นเต้น?

    GMMTV 2026 คืองานเปิดตัวซีรีส์และละครใหม่ประจำปีของค่าย GMMTV ที่คาดว่าจะจัดขึ้นใน ช่วงปลายปี 2568 ตามข่าวลือจากแฟนคลับ นี่เป็นงานที่แฟนๆ รอคอยกันทุกปี เพราะจะได้เห็นแผนการผลิตทั้งหมดสำหรับปีถัดไปเลยทีเดียว

    จากปีที่แล้วที่ใช้ชื่อว่า “GMMTV 2025: Riding the Wave” และเปิดตัวซีรีส์ใหม่ถึง 20 เรื่อง ปีนี้เราก็คาดหวังได้ไม่น้อยไปกว่ากันแน่นอน! น่าจะมีซีรีส์ใหม่มากกว่า 20 เรื่องเหมือนเดิม พร้อมนักแสดงมากมายมาร่วมงานนี้

    งานนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง?

    1. ซีรีส์ใหม่กว่า 20 เรื่อง!

    นี่คือส่วนที่ทุกคนรอคอยมากที่สุด! เราน่าจะได้เห็นตัวอย่างซีรีส์ใหม่ๆ หลากหลายแนว ทั้ง:

    • ซีรีส์โรแมนติก (Romance) – ความรักแบบหวานๆ ที่เราชอบ
    • คอมเมดี้ (Comedy) – เรื่องเบาสมอง หัวเราะจนท้องแข็ง
    • ดราม่า (Drama) – เรื่องราวชีวิตที่สะเทือนใจ
    • สืบสวน/ระทึกขวัญ (Mystery/Thriller) – ตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง

    และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือ ซีรีส์ BL (Boys’ Love) และ GL (Girls’ Love) ที่เป็นจุดแข็งของค่าย!

    2. คู่จิ้นโปรดที่แฟนคาดหวังจะกลับมา!

    นี่คือคำถามที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุด! คู่จิ้นโปรดของเราจะได้เล่นด้วยกันอีกไหม? ปีนี้เราอาจจะได้เห็น:

    • GeminiFourth – คู่จิ้นดังจากซีรีส์ My School President
    • JoongDunk – คู่ที่ความน่ารักเกินต้าน
    • PondPhuwin – คู่ที่ chemistry เต็มเปี่ยม
    • FirstKhaotung – คู่ที่การแสดงดีมาก
    • ForceBook – คู่ที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
    • MilkLove – คู่ GL ยอดนิยม
    ภาพคู่จิ้นจาก GMMTV ยิ้มและมีปฏิสัมพันธ์กันบนเวที

    3. รูปแบบงานและสถานที่จัด

    คาดว่างานปีนี้น่าจะจัดที่ Union Hall ชั้น 6 ศูนย์การค้ายูเนียนมอลล์ หรืออาจจะเป็นสถานที่ขนาดใหญ่ที่รองรับแฟนๆ ได้มากกว่านั้น

    งาน GMMTV ทุกปีไม่ใช่แค่งานประกาศซีรีส์ธรรมดาๆ แต่เป็นงานเทศกาลที่ทั้งสนุกและได้ข้อมูลครบถ้วน! เราน่าจะได้เห็น:

    • ตัวอย่างซีรีส์ใหม่ทั้งหมด
    • การแนะนำนักแสดงและทีมงาน
    • การแสดงพิเศษจากนักแสดง
    • กิจกรรมสนุกๆ กับแฟนๆ
    • การเปิดตัวโปรเจกต์พิเศษอื่นๆ

    ย้อนดู GMMTV 2025 มีซีรีส์อะไรบ้าง?

    มาเตรียมตัวด้วยการดูกันก่อนดีกว่าว่าปีที่แล้วมีซีรีส์อะไรบ้าง จะได้คาดการณ์ปีนี้ถูก!

    ปีที่แล้วใน GMMTV 2025: Riding the Wave มีซีรีส์ใหม่ 20 เรื่อง เช่น:

    1. Dare You to Death (ไขคดีเป็น เห็นคดีตาย) – แนวสืบสวน
    2. Head 2 Head (ไหนใครว่าพวกมันไม่ถูกกัน) – แนว BL คอมเมดี้
    3. Burnout Syndrome (ภาวะรักคนหมดไฟ) – แนวโรแมนติกดราม่า
    4. Only Friends: Dream On – ภาคต่อของซีรีส์ดัง
    5. My Romance Scammer – แนวโรแมนติกสืบสวน
    6. Girl Rules (กฎหลัก…ห้ามรักเธอ) – แนว GL

    เห็นไหมว่ามีหลากหลายแนวจริงๆ! ปีนี้เราก็คาดหวังได้ไม่น้อยไปกว่ากันแน่นอน

    สิ่งที่แฟนๆ คาดหวังจาก GMMTV 2026

    จากการที่เราติดตามมาหลายปี สังเกตเห็นว่าแฟนๆ มักจะคาดหวังสิ่งเหล่านี้จากงาน GMMTV:

    1. การกลับมาของคู่จิ้นยอดนิยม

    ใครๆ ก็อยากเห็นคู่จิ้นโปรดกลับมาเล่นด้วยกันอีกในบทบาทใหม่ๆ ที่ท้าทายมากขึ้น!

    2. รูกี้หน้าใหม่

    ทุกปีจะมีนักแสดงหน้าใหม่มาให้เราตกหลุมรักเสมอ ปีนี้จะมีดาวดวงใหม่คนไหนบ้างนะ?

    3. ซีรีส์ภาคต่อ

    เรื่องโปรดของเราจะมีภาคต่อไหม? นี่คือคำถามที่แฟนๆ ถามกันทุกปี!

    4. ความหลากหลายของแนวเรื่อง

    ไม่ใช่แค่ BL/GL แต่รวมถึงซีรีส์สืบสวน ดราม่า และคอมเมดี้ ที่มีคุณภาพไม่แพ้กัน

    5. คอลลาบใหม่ๆ

    การจับคู่นักแสดงที่ยังไม่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน มักจะสร้างความเซอร์ไพรส์ได้เสมอ!

    6. ซีรีส์ระดับอินเตอร์

    GMMTV กำลังพุ่งเป้าไปที่ตลาดโลกมากขึ้น ซีรีส์ปีหน้าอาจจะยิ่งมีคุณภาพมากขึ้นไปอีก!

    ภาพแฟนๆ GMMTV กำลังเชียร์และถ่ายรูปในงานอีเวนต์

    เทรนด์ซีรีส์ GMMTV ในปัจจุบัน

    สังเกตไหมว่าช่วงหลังๆ ซีรีส์ของ GMMTV เปลี่ยนไปบ้าง? นี่คือเทรนด์ที่เราสังเกตเห็น:

    • เน้นคุณภาพระดับอินเตอร์ – ผลิตเพื่อแข่งขันในตลาดโลก
    • เพิ่มความหลากหลาย – ไม่จำกัดแค่เรื่องรักๆ ใคร่ๆ
    • พัฒนานักแสดงรุ่นใหม่ – ฝึกฝนทั้งการแสดง ร้องเพลง เต้น
    • ดัดแปลงจากนิยายดัง – เลือกเรื่องที่มีฐานแฟนคลับแข็งแรง
    • มาตรฐานการผลิตสูง – ทั้งภาพ เสียง และเนื้อเรื่อง

    วิธีเตรียมตัวรับชมงาน GMMTV 2026

    เตรียมตัวให้พร้อม! งานนี้จะสนุกมากขึ้นถ้าเราพร้อมรับชม:

    1. ติดตามช่องทางโซเชียลมีเดีย

    อย่าลืมติดตาม ช่องทางทั้งหมดของ GMMTV ทั้ง Facebook, YouTube, TikTok, Instagram และ Twitter/X เพื่อไม่พลาดข่าวสารล่าสุด!

    2. เตรียมข๊อกเชียร์คู่จิ้นโปรด

    เตรียมป้าย เชียร์บอล หรืออะไรก็ตามที่จะส่งกำลังใจให้คู่จิ้นโปรด!

    3. ใช้แฮชแท็ก #GMMTV2026

    ติดแฮชแท็ก #GMMTV2026 เพื่ออัพเดทข่าวสารและพูดคุยกับแฟนๆ คนอื่นๆ

    4. เช็คเวลาถ่ายทอดสด

    ตั้งเวลาเตือนไว้เลย! งานมักจะยาวหลายชั่วโมง อย่าให้พลาดแม้แต่ช่วงเดียว

    5. เตรียมของว่างและเครื่องดื่ม

    นั่งดูสบายๆ ด้วยขนมและเครื่องดื่มโปรด เพราะงานอาจจะยาวถึง 3-4 ชั่วโมง!

    FAQ: คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ GMMTV 2026

    Q: งาน GMMTV 2026 จัดเมื่อไหร่?

    A: ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะจัดในช่วงปลายปี 2568 นี้ รอติดตามข่าวสารจาก GMMTV อย่างใกล้ชิดนะ!

    Q: ดูงานสดได้ที่ไหนบ้าง?

    A: ตามรูปแบบการถ่ายทอดสดของงานก่อนหน้า น่าจะดูได้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของ GMMTV ทั้ง Facebook, YouTube และอื่นๆ ฟรีทุกช่องทาง!

    Q: ปีนี้จะมีซีรีส์กี่เรื่อง?

    A: จากปีที่แล้วที่มี 20 เรื่อง ปีนี้ก็น่าจะมีประมาณนั้นหรืออาจจะมากกว่า!

    Q: มีคู่จิ้นไหนกลับมาบ้าง?

    A: นี่คือคำตอบที่ทุกคนรอ! ต้องรอดูในงานเลย แต่คาดว่าคู่จิ้นยอดนิยมน่าจะกลับมาให้เราติดตามกัน

    Q: งานจัดที่ไหน?

    A: คาดว่าจะจัดที่ Union Hall หรือสถานที่ขนาดใหญ่ที่รองรับแฟนๆ ได้มาก

    สรุป

    GMMTV 2026 เป็นมากกว่าแค่งานประกาศซีรีส์ใหม่ แต่เป็นเทศกาลแห่งความสุขของแฟนซีรีส์ไทยทุกคน! ไม่ว่าใครจะชอบแนวไหน BL GL โรแมนติก คอมเมดี้ หรือสืบสวน งานนี้มีครบแน่นอน

    เตรียมตัวให้พร้อม ตั้งเตือนไว้ให้ดี และมาสนุกไปด้วยกันในปลายปีนี้! แล้วเจอกันในไลฟ์นะเพื่อนๆ 😊

    ใครตื่นเต้นเหมือนกันบ้าง? คอมเมนต์มาคุยกันได้เลยว่าอยากเห็นคู่จิ้นไหนหรือซีรีส์แนวไหนบ้าง!

  • เที่ยวญี่ปุ่น 2025: 10 มารยาทต้องรู้หลังดราม่า

    เที่ยวญี่ปุ่น 2025 ห้ามพลาด! 10 มารยาทและกฎหมายที่ต้องรู้ หลังดราม่าแจ็กแป๊ปโฮ

    เรื่องนี้กำลังเป็นกระแสมากจริงๆ! เพื่อนๆ คงได้เห็นข่าวดราม่าของแจ็กแป๊ปโฮที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมจนโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ผมว่าเรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญมากสำหรับเราทุกคนที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ปี 2025 นี้ญี่ปุ่นเข้มงวดเรื่องมารยาทและกฎหมายมากขึ้นเยอะเลย

    ภาพแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะของญี่ปุ่น

    พอไปติดตามข่าวดูแล้วพบว่า แจ็กแป๊ปโฮ ทำพฤติกรรมที่ถือว่าละเมิดหลัก Meiwaku หรือการสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญมากๆ โดยเฉพาะการยืนบนหลังคารถที่หน้าร้านสะดวกซื้อ Lawson ในพื้นที่คาวากุจิโกะที่มีวิวภูเขาไฟฟูจิ แล้วยังถอดเสื้อเต้นอีก! 😱 ก่อนหน้านี้ในปี 2022 เขายังเคยยืนบนโต๊ะอาหารในร้านโอมากาเสะด้วย

    ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ?

    ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหา overtourism อย่างหนัก นักท่องเที่ยวล้นจนคนท้องถิ่นเดือดร้อน หลายเมืองเลยออกกฎเข้มงวดขึ้น บางที่เริ่มจำกัดจุดถ่ายรูป มีการปรับเงิน หรือแม้แต่ปิดเส้นทางท่องเที่ยวเลยก็มี!

    ที่สำคัญคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทยออกมาเตือนกันแล้ว เรื่องนี้กระทบต่อภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวไทยด้วยนะ

    10 มารยาทและกฎหมายที่ต้องรู้ก่อนไปญี่ปุ่น

    1. Meiwaku (迷惑) – ห้ามสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น

    คำนี้คือหัวใจของการใช้ชีวิตในญี่ปุ่นเลย! Meiwaku แปลว่า “การสร้างความรำคาญหรือความลำบากใจให้ผู้อื่น” ซึ่งคนญี่ปุ่นถือเป็นกฎเหล็ก

    • ไม่พูดเสียงดังในรถไฟและรถบัส
    • ไม่รับประทานอาหารบนรถไฟในเมือง (ยกเว้นชินคันเซ็นและรถไฟทางไกลที่สามารถทานได้)
    • ห้ามคุยโทรศัพท์ดังๆ ในที่สาธารณะ

    ผมเคยลองนั่งรถไฟในโตเกียวแบบเงียบๆ ตามธรรมเนียม แล้วรู้สึกว่ามันดีมากจริงๆ ทำให้การเดินทางสบายขึ้นเยอะ

    2. วัฒนธรรมความสะอาดและมารยาท

    คนญี่ปุ่นยึดถือเรื่องความสะอาดมาก โดยเฉพาะในการรับประทานอาหาร

    • ห้ามเหยียบโต๊ะอาหารหรือพื้นที่รับประทานอาหารโดยเด็ดขาด
    • ทุกอย่างต้องดูดี เรียบร้อย และสะอาดสบายตา
    วัฒนธรรมความสะอาดและมารยาทในการรับประทานอาหารของญี่ปุ่น

    3. มารยาทการใช้ตะเกียบ

    เรื่องนี้สำคัญมาก! เพื่อนๆ หลายคนอาจยังไม่รู้

    • ห้ามปักตะเกียบลงในชามข้าว เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับพิธีศพ
    • ควรวางตะเกียบบนที่วางหรือขอบจาน
    • ห้ามคีบอาหารจากตะเกียบของตนไปยังตะเกียบของผู้อื่น

    4. การเข้าออนเซ็น (บ่อน้ำร้อน)

    อันนี้ผมเคยทำพลาดตอนไปครั้งแรก! 😅

    • ส่วนใหญ่ห้ามสวมใส่อะไรลงแช่
    • ต้องอาบน้ำให้สะอาดก่อนลงแช่
    • บางที่ห้ามคนที่มีรอยสักลงแช่ แต่ตอนนี้มีออนเซ็นหลายแห่งเริ่มยอมรับมากขึ้น โดยเฉพาะที่เมืองเบปปุที่มีออนเซ็นที่ยอมรับรอยสักกว่า 100 แห่ง

    5. การสูบบุหรี่

    ญี่ปุ่นเข้มงวดเรื่องนี้มาก

    • ห้ามสูบบุหรี่ขณะเดินบนถนน
    • มีพื้นที่เฉพาะสำหรับสูบบุหรี่
    • การทิ้งก้นบุหรี่ลงบนพื้นอาจถูกปรับ โดยค่าปรับแตกต่างกันไปตามเมือง เช่น โตเกียว 2,000-5,000 เยน เกียวโต 1,000 เยน

    6. สารเสพติดและกัญชา

    อันนี้อันตรายมาก! เพื่อนๆ ต้องระวังให้ดี

    • การนำเข้าและครอบครองสารเสพติดในญี่ปุ่นจะได้รับโทษอย่างรุนแรง
    • โดยเฉพาะกัญชาที่หลายประเทศผ่อนผัน แต่ในญี่ปุ่นยังมีการควบคุมอย่างเข้มงวดมาก และเพิ่งเปลี่ยนกฎหมายให้การใช้กัญชาเป็นความผิดอาจมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี

    7. การนำเข้ายา

    ตรวจสอบยาที่นำเข้าให้ดี!

    • ยาที่มีส่วนผสมของสารซูโดอีเฟดรีน หรือสารคล้ายคลึงอาจถูกห้ามนำเข้า
    • ควรตรวจสอบรายชื่อยาก่อนเดินทาง

    8. การดื่มแล้วขับ

    ห้ามเด็ดขาด!

    • รวมถึงการปั่นจักรยานด้วย
    • ญี่ปุ่นมีนโยบาย zero tolerance สำหรับการดื่มแล้วขับและมีโทษทางกฎหมายที่เข้มงวด
    • ต้องทราบกฎจราจรเป็นอย่างดี

    9. การปีนขึ้นบนยานพาหนะหรือสิ่งของสาธารณะ

    อันนี้ตรงกับดราม่าแจ็กแป๊ปโฮเลย

    • ถือเป็นการทำลายทรัพย์สินและสร้างความรำคาญ
    • อาจถูกเรียกเก็บค่าเสียหายหรือดำเนินคดีได้
    มารยาทในการใช้บริการขนส่งสาธารณะของญี่ปุ่น

    10. Visit Japan Web

    ระบบนี้สำคัญมากสำหรับการเข้าประเทศ

    • ผู้เดินทางสามารถยื่นข้อมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ Visit Japan Web เพื่อความสะดวกในการเข้าประเทศ
    • แต่ก็ยังสามารถกรอกแบบฟอร์มกระดาษได้ตามปกติ

    ข้อกำหนดการเข้าประเทศญี่ปุ่นปี 2025

    เพื่อนๆ หลายคนถามมาเยอะว่าต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

    • คนไทยที่ถือหนังสือเดินทางแบบที่มี IC ชิพ
    • เดินทางท่องเที่ยวระยะสั้นไม่เกิน 15 วัน
    • สามารถเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
    • ควรพกสำเนาพาสปอร์ตเพื่อเป็นเอกสารยืนยันตัวตนอยู่เสมอ

    ข้อควรรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น

    การขอโทษ

    การขอโทษของไทยและญี่ปุ่นมีความหมายต่างกัน

    • ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการคืนความสมดุลของพื้นที่และการรับผิดชอบอย่างจริงจัง
    • ไม่ใช่แค่พูด “ขอโทษ” แล้วจบ แต่ต้องแสดงความรับผิดชอบจริงๆ

    Pop Culture กับความเป็นจริง

    อันนี้ผมเจอมาเอง! อนิเมะและดราม่าญี่ปุ่นอาจทำให้เราเข้าใจผิดว่าญี่ปุ่นเปิดกว้างมากกว่าความเป็นจริง

    • ในชีวิตจริงคนญี่ปุ่นยึดถือกฎระเบียบและมารยาทอย่างเข้มงวด
    • คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความสอดประสานกลมกลืน
    • ไม่ชอบการปฏิเสธอย่างชัดแจ้งหรือการสร้างความขัดแย้ง

    FAQ คำถามที่พบบ่อย

    Q: ถ้าทำผิดพลาดไปแล้วควรทำอย่างไร?

    A: ขอโทษทันทีและแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจ อย่าหาข้อแก้ตัวหรือตอบโต้

    Q: การถ่ายรูปที่ไหนบ้างที่ต้องระวัง?

    A: ตามสถานที่สาธารณะ วัด ศาลเจ้า และพื้นที่ส่วนตัว ควรสังเกตป้ายหรือถามก่อนถ่ายรูปเสมอ

    Q: ถ้ามีคนญี่ปุ่นมาตักเตือนควรทำอย่างไร?

    A: ฟังอย่างตั้งใจ ขอบคุณที่ตักเตือน และปรับปรุงตัวเองทันที

    Q: อาหารการกินมีอะไรที่ต้องระวังเป็นพิเศษ?

    A: ควรทานให้หมดจาน ไม่เหลือทิ้ง และเรียนรู้มารยาทพื้นฐานในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น

    วัฒนธรรมและมารยาทในการทานอาหารของญี่ปุ่น

    สรุปจากใจจริง

    การไปเที่ยวประเทศอื่นนอกจากความสนุกแล้ว เรายังเป็นตัวแทนของประเทศเราด้วย การเรียนรู้และเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่นไม่ใช่แค่เรื่องมารยาทแต่เป็นการแสดงความเคารพต่อเจ้าของบ้าน

    ปี 2025 นี้ญี่ปุ่นเข้มงวดขึ้น แต่ถ้าเราเตรียมตัวดีๆ และเรียนรู้มารยาทพื้นฐาน ก็ยังสามารถเที่ยวได้อย่างสนุกและมีความสุขแน่นอน!

    เพื่อนๆ มีประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง? หรือมีคำถามอะไรเพิ่มเติม คอมเมนต์มาคุยกันได้นะครับ ✈️🌸